โบรกเกอร์ Fidelity ดีไหม

โบรกเกอร์ Fidelity สรุปภาพรวม

ความน่าเชื่อถือ : ★★★★★
โปรโมชั่น : ★★★☆☆
การฝากถอน : ★★★★★
Spread : ★★★★☆
ฝ่าย Support : ★★★★★

Fidelity เป็นโบรกเกอร์ที่ดีไหม ?

Fidelity เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกาที่มีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 75 ปี โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1946 ปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 12.6 ล้านล้านดอลลาร์ และให้บริการลูกค้ากว่า 50 ล้านราย Fidelity เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนระยะยาวและผู้ที่ต้องการความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การลงทุน

Fidelity
Fidelity
  • มีชื่อเสียงด้านกองทุนรวมและ ETF ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
  • ให้บริการครอบคลุมทั้งการซื้อขายหลักทรัพย์ การวางแผนการเกษียณ และการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน
  • มีเครื่องมือการวิจัยและวิเคราะห์ที่มีคุณภาพสูง
  • ให้บริการทั้งแบบออนไลน์และมีสาขากระจายอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา

ข้อดี / จุดเด่นสำคัญ

  1. ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายหุ้น ETF และออปชั่นออนไลน์
  2. มีกองทุนรวมและ ETF ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม (Fidelity ZERO funds)
  3. เครื่องมือวิจัยและวิเคราะห์ที่มีคุณภาพสูง
  4. บริการลูกค้าที่มีคุณภาพ พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24/7
  5. แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
  6. มีบริการ Robo-advisor (Fidelity Go) สำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการพอร์ตโฟลิโออัตโนมัติ

ข้อเสียที่พบ

  1. ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการจัดการพอร์ตโฟลิโอแบบ Robo-advisor ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  2. ไม่มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) โดยตรง มีเพียง Bitcoin ETF
  3. เครื่องมือวิเคราะห์พอร์ตโฟลิโอยังไม่ซับซ้อนเท่าที่ควร
  4. ไม่มีบริการซื้อขาย Futures และ Forex

โบรกเกอร์ Fidelity จดทะเบียนที่ไหนบ้าง

Fidelity ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำในสหรัฐอเมริกา:

  1. Securities and Exchange Commission (SEC)
  2. Financial Industry Regulatory Authority (FINRA)
  3. Securities Investor Protection Corporation (SIPC)

ประเภทบัญชีเทรด

Fidelity มีบัญชีเทรดหลายประเภทให้เลือก:

Fidelity ประเภทบัญชี
Fidelity ประเภทบัญชี
  1. บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไป (Individual and Joint Brokerage Accounts)
  2. บัญชีเพื่อการเกษียณ (Retirement Accounts) เช่น Traditional IRA, Roth IRA
  3. บัญชีออมเพื่อการศึกษา (529 College Savings Plans)
  4. บัญชีสำหรับธุรกิจ (Business Accounts)
  5. บัญชีการจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management Accounts)

Platform การเทรด

  1. Fidelity.com: แพลตฟอร์มหลักสำหรับการซื้อขายและจัดการบัญชี ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน
  2. Active Trader Pro: แพลตฟอร์มสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายบ่อย มีเครื่องมือขั้นสูงและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
  3. Fidelity Mobile App: แอพพลิเคชั่นมือถือที่รองรับทั้ง iOS และ Android ให้คุณสามารถซื้อขายและจัดการพอร์ตได้ทุกที่ทุกเวลา

ช่องทางการฝากถอน

Fidelity รองรับวิธีการฝากและถอนเงินหลายรูปแบบ:

  • โอนเงินผ่านธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer)
  • เช็ค
  • โอนเงินระหว่างบัญชี Fidelity
  • ฝากเงินโดยตรงจากเงินเดือน

ข้อควรระวัง:

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน
  • การถอนเงินส่วนใหญ่จะใช้เวลา 1-3 วันทำการ

Spread และ Commission

Fidelity ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายหุ้น ETF และออปชั่นออนไลน์ แต่อาจมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ:

  • ค่าธรรมเนียมต่อสัญญาออปชั่น: $0.65 ต่อสัญญา
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุนรวมที่ไม่ใช่ของ Fidelity: $49.95 ต่อการซื้อ (ไม่มีค่าธรรมเนียมการขาย)

ฝ่ายบริการลูกค้า

Fidelity มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่มีคุณภาพสูง:

Fidelity ติดต่อ
Fidelity ติดต่อ
  • บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ตลอด 24/7
  • Live chat ออนไลน์
  • สาขากว่า 200 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา
  • ทีมให้คำปรึกษาด้านการลงทุนที่มีประสบการณ์

สรุปภาพรวม

Fidelity เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและต้องการความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การลงทุน

จุดเด่น:

  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายหุ้นและ ETF
  • มีกองทุนรวมและ ETF ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • เครื่องมือวิจัยและวิเคราะห์ที่มีคุณภาพสูง
  • บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

ข้อควรพิจารณา:

  • ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการ Robo-advisor ค่อนข้างสูง
  • ไม่มีการซื้อขาย Cryptocurrency โดยตรง

โดยรวมแล้ว Fidelity เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และมีเครื่องมือการวิจัยที่มีคุณภาพสูง แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ข้อดีของ Fidelity ก็มีมากกว่าข้อเสียอย่างชัดเจน