โบรกเกอร์ ATFX ดีไหม

โบรกเกอร์ ATFX สรุปภาพรวม

หัวข้อ คะแนน
ความน่าเชื่อถือ : ★★★★☆
โปรโมชั่น : ★★★☆☆
การฝากถอน : ★★★★☆
Spread : ★★★★☆
ฝ่าย Support : ★★★★☆

ATFX เป็นโบรกเกอร์ที่ดีไหม?

ATFX เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง อย่างไรก็ตาม มีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณาสำหรับนักลงทุน

ATFX
ATFX

ข้อดี / จุดเด่นสำคัญ

  1. ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เช่น FCA, CySEC และ FSA
  2. แยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีบริษัท เพิ่มความปลอดภัยของเงินลงทุน
  3. สเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ 1.8 pips สำหรับ EUR/USD
  4. มีสินค้าให้เทรดหลากหลาย รวมถึงหุ้นจากยุโรปและอเมริกา
  5. รองรับภาษาไทยทั้งเว็บไซต์และฝ่ายสนับสนุน
  6. ฝากถอนสะดวกผ่านธนาคารไทยและช่องทางอื่นๆ

ข้อเสียที่พบ

  1. มีเพียงแพลตฟอร์ม MT4 ไม่รองรับ MT5
  2. เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:200 ซึ่งอาจน้อยกว่าโบรกเกอร์บางราย
  3. มีเพียงประเภทบัญชีเดียว อาจไม่ตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ
  4. ไม่มีบัญชีแบบ ECN
  5. ไม่มีบริการเทรดหุ้นไทยหรือหุ้นในตลาดเอเชีย

โบรกเกอร์ ATFX จดทะเบียนที่ไหนบ้าง

ATFX ได้รับการกำกับดูแลและอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง ดังนี้:

ATFX ใบอนุญาต
ATFX ใบอนุญาต
  1. Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร – ใบอนุญาตเลขที่ 760555
  2. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ในไซปรัส – ใบอนุญาตเลขที่ 285/15
  3. Financial Services Commission (FSC) ในมอริเชียส
  4. Securities and Commodities Authority (SCA) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  5. Financial Services Authority (FSA) ในเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์

นอกจากนี้ ATFX ยังเป็นสมาชิกของ Financial Services Compensation Scheme (FSCS) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งให้ความคุ้มครองเงินลงทุนของลูกค้าสูงสุด 85,000 ปอนด์ต่อบัญชี

ข้อเสนอและโปรโมชั่น

ATFX มีโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ดังนี้:

  1. โบนัสต้อนรับสำหรับลูกค้าใหม่
  2. โปรแกรมคืนเงิน (Cashback) สำหรับการเทรด
  3. การแข่งขันเทรดประจำเดือนพร้อมรางวัล
  4. โปรแกรม VIP สำหรับลูกค้าที่มียอดเทรดสูง

อย่างไรก็ตาม โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา ควรตรวจสอบข้อเสนอล่าสุดบนเว็บไซต์ของ ATFX

ประเภทบัญชีเทรด

ATFX มีบัญชีเทรดประเภทเดียวคือ “บัญชีมาตรฐาน” (Standard Account) โดยมีรายละเอียดดังนี้:

ATFX ประเภทบัญชี
ATFX ประเภทบัญชี
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:200
  • สเปรดเริ่มต้น: 1.8 pips สำหรับ EUR/USD
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • รองรับการเทรด Forex, CFDs, โลหะมีค่า, ดัชนี, และหุ้น

Spread, Commission และ Swap

  1. Spread:
    • EUR/USD: เริ่มต้นที่ 1.8 pips
    • USDJPY: เริ่มต้นที่ 2.0 pips
    • GBPUSD: เริ่มต้นที่ 2.0 pips
  2. Commission: ATFX ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม ต้นทุนการเทรดทั้งหมดรวมอยู่ในสเปรดแล้ว
  3. Swap:
    • EUR/USD: Long -5.89, Short 2.43
    • USDJPY: Long 10.03, Short -26.52
    • GBPUSD: Long -2.21, Short -0.44

ช่องทางการฝากถอน

ATFX รองรับวิธีการฝากและถอนเงินหลายรูปแบบ ดังนี้:

ATFX ฝากถอนเงิน
ATFX ฝากถอนเงิน
  1. โอนเงินผ่านธนาคารไทย
  2. บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard)
  3. Neteller
  4. Skrill
  5. การโอนเงินระหว่างประเทศ (Wire Transfer)

การฝากเงินส่วนใหญ่ไม่มีค่าธรรมเนียม และดำเนินการทันที ส่วนการถอนเงินอาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือก

แพลตฟอร์มการเทรด

ATFX ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดหลัก คือ MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งมีข้อดีดังนี้:

  1. ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
  2. มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลาย
  3. รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
  4. มีเวอร์ชันสำหรับ Desktop, Web, และ Mobile (iOS, Android)

อย่างไรก็ตาม ATFX ยังไม่รองรับ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับเทรดเดอร์บางราย

ฝ่ายบริการลูกค้า

ATFX มีบริการลูกค้าที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ ดังนี้:

ATFX ติดต่อ
ATFX ติดต่อ
  • ให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
  • รองรับภาษาไทย
  • ช่องทางการติดต่อ: Live Chat, อีเมล, โทรศัพท์
  • มีศูนย์ให้ความรู้และบทความเกี่ยวกับการเทรด

สรุปภาพรวม ATFX

ATFX เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยและการกำกับดูแลที่เข้มงวด จุดเด่นคือสเปรดต่ำ ความหลากหลายของสินค้าที่เทรดได้ และการสนับสนุนภาษาไทย อย่างไรก็ตาม การมีเพียงบัญชีประเภทเดียวและแพลตฟอร์ม MT4 อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนบางกลุ่ม

โดยสรุป ATFX เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีต้นทุนการเทรดต่ำ และรองรับภาษาไทย แต่นักลงทุนควรพิจารณาข้อจำกัดด้านประเภทบัญชีและแพลตฟอร์มก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี